ห้องที่ ๑๕๕ : พระสาธุศีลสังวร


           องค์นารายน์ดำหรัสเอื้อน โองการ
ถามพระน้องโดยสาร ศึกไซ้
ทศพินฤทธิเปรียบปาน ใดใคร่ รู้แฮ
อีกมลิวันได้ รบช้าฤๅพลัน
           พระพรตประนตน้อม ทูลคดี
ศึกทศพินวรนี สุรไซร้
บุตรอินทรชิตสองมี ใจภักดิ์ จับนา
เสร็จพิฆาฏจึ่งได้ สู่ด้าวมลิวัน
           แรกอนุชคุมทัพย้าย แยกทบ รบนา
ต้องหอกสุริยาภพ แทบม้วย
บันไลยจักรออกรบ แผลงอิก เล่านา
ศรรัตสัตรุศด้วย หากแก้กันทัน
           กุมภัณฑ์จักรวรรดิ์สู้ อนุชา
ขุนยักษแผลงศรมา มุ่งน้อง
หากพระโปรดเกษา ปทานเกราะ กันแฮ
จึ่งพิฆาฎหมดพ้อง พวกพื้นมารพาล
           ฟังพระพรตทูลถี่ถ้วน ทุกประการ
ธตอบว่ามารชาญ รบเร้า
พระเวทสาตร์เทพทาน แทตยศักดิ์ สิทธินา
หากว่าสองน้องเจ้า ฤทธิล้ำอรินไปลย
           โองการซักท้าวพิ เภกตรึก ไฉนนา
ท่านก็โหรหารฦก เล่ห์รู้
หลงเลี้ยงลูกฆ่าศึก เปนบุตร ตนนา
อสุรผัดบอกจึ่งกู้ ชีพไว้เปนตัว
           พิเภกประนตน้อม สนองยุบล
ฃ้าบาทหมายบุตรตน แต่ไส้
จักรวรรดิ์ยกพลผจญ เจียนจัก ไปลยนา
หากพระเดชปกไว้ จึ่งพ้นไภยพาล
          พระจักรีสดับยิ้ม สรวลปรา ไสเอย
ฤทธิ์ท่านนอยพาลมา หมี่นไซร้
เพราะนิเวศน์ลงกา เถกิงกึ่ง สวรรคเฮย
ปวงพวกพาลจึ่งได้ รบร้าชิงนคร
           โองการสั่งพระลักษณทั้ง สุมัน ตันเอย
ศึกเสร็จจะรางวัน ทั่วผู้
เครื่องยศแลทรัพย์บัน ดาศักดิ์
ตามซึ่งได้ต่อสู้ ยักษร้ายวายชนม์
           พระลักษกับอมาตย์น้อม อัญชลี แล้วเฮย
มาประชุมมนตรี ใหญ่น้อย
ปฤกษาซึงผู้มี ความชอบ
ตามจดหมายเทียบถ้อย แบบเบื้องปางบรรพ์
           ปฤกษาว่าเมื่อครั้ง หริรักษ
พระราชทานทรัพยศักดิ แก่ทแกล้ว
ซึ่งเสร็จศึกทศภักตร์ เปนแบบ
เปนหลักเทียบเปรียบแล้ว เลิศข้อคำเดิม
           หนึ่งโปรดพระพรตให้ คุมทหาร
พิฆาฎทศพินมาร เสร็จแล้ว
รีบปรุกรอนราญ จักรวรรดิ วอดเอย
ผดุงราษฎ์สองนครแผ้ว ผ่องเสี้ยนศึกสูญ
           พระสัตรุศออกรบร้า จนสลบ
ต้องหอกสุริยาภพ แทบม้วย
บันไลยจักรออกรบ แผลงสาตร รัดแฮ
พระกลับผลาญมารด้วย เดชล้ำฤทธิรงค์
           สองทรงธรรม์อนุชไท้ นฤเบศร์
ควรครอบครองไกยเกษ ผ่านเผ้า
ทรงบวรราชเสวตร ฉัตรศักดิ์ เฉลิมแฮ
ให้เครื่องขัติยราชเจ้า แก่ไท้ทั้งสอง
          ยังบุตรสุริเยศนั้น ชาญไชย
เหาะโลดนภดลไว รับน้อง
คร่าอสุรบันไลย จักรปล่อย ศรนา
ควรเครืองกระษัตริย์ต้อง จัตให้รางวัน
           ทศคิริวงษราพท้าว สุจริต
เปนเนตรศึกศักดิ์สิทธิ์ สอ่งรู้
ควรให้มกุฏวิจิตร เนาวรัตน์ จรูญแฮ
เพิ่มเกียรดิ์ตามควรผู้ พิทักษด้าวลงกา
           พระยาอนุชิตล้ำ เลอสรรพ์ ทหารแฮ
หักด่านกรดเพลิงกัลป์ ป่นพ้น
ควรครองเฃตรมลิวัน เวียงราพ
ให้เครื่องทรงเครื่องต้น เพิ่มทั้งนางสนม
           พระยาอินนุภาพล้าง บันไลย จกรนา
แข่งฆ่าเพตราไกษย ชีพม้วย
ควรให้เครื่องขัติยไพ โรจรัตน อร่ามเอย
ทั้งเครื่องอุปโภคด้วย มาศล้วนจำหลักลาย
           นิลพัทควรแต่งตั้ง เปนพระยา
อไภยพัททะพงษา ชื่ออาง
สังวาลยมาศรัตนา ภรณ์ประ ทานแฮ
เพิ่มศักดิ์อุปราชข้าง เขตรด้าวชมภู
           ชมภูพานกับทั้ง นิลนนท์ นั้นนา
ได้ลื่อสองเมืองผจญ ราพม้วย
ให้มงกุฎรัตนหิรญ อลงกฏ
กับเครื่องอื่นอีกด้วย ชอบได้อาษา
           อลุรผัดนำเหตุด้าว ลงกา ทูลเฮย
พิธียักษสองครา ล่มได้
ให้เปนที่พระยา มารนุ ราชแฮ
อุปราชลงกาให้ ช่วยท้าวไอยกา
          โอรสอินทรชิตผู้ เชษฐา
ลอบออกทูลกิจา แก่ไท้
ควรที่เปนพระยา วันยุ ภักตรแฮ
พิทักษกุรุราษฐให้ ราษฎร์แผ้วผองเกษม
           กนยุเวกให้ปกด้าว จักรวาฬ
กันนุชิตนามขนาน ยศไซ้
หนึ่งปาวนะมาร โปรดกลับ กรุงแฮ
ช่วยกิจพิเภกให้ ผ่องแผ้วประชากร
           พระลักษณกบหมู้ท้าว พระยา ปวงเอย
เหนชอบคำปฤกษา สู่เฝ้า
กราบทูลพระเทพา วตารทราบ เสร็จแฮ
ตามรเบียบเรียบเค้า เงื่อนถ้วนทุกประการ
           ทรงสุบรรณผ่องแผ้ว วรกาย
ฟังเสร็จข้อบรรยาย ถี่ถ้วน
ต้องพระหฤไทยหมาย โดยขนบ
จึ่งประทานบำเหน็จล้วน ชอบได้ปฤกษา
           ภูธรจึ่งตรัสเอื้อน โองการ
เออพิเภกขุนมาร ฤทธิน้อย
จะเสื่อมศึกเพราะหลาน ช่วยรงับ
จงอย่าละเยี่ยงถ้อย ผิดเค้าการธรรม
           สองน้องจกรกฤษณน้อม ศิระราบ
มนุษยยักษลิงกราบ เกลื่อนเกล้า
ได้พระราชทานลาภ เหลือแหล่
ต่างฤดีแดเร้า รื่นชื้นรอมชอม
           พระจอมโมลิศไท้ อวตาร
เสร็จซึ่งปูนบำนาญ บ่ายคล้อย
จากอาศนสรกาญจน์ ยุรยาตร์
สถิตย์แท่นมณเฑียรพร้อย พรั่งพร้อมแสนสุรางค์

จบห้องที่ ๑๕๕

  เนื้อความกล่าวถึงพระรามตรัสถามพระอนุชาทั้งสองเรื่องการศึก พระพรตทูลเล่าเรื่องการทำศึกกับทศพินและวรนีสูร ซึ่งยามลิวันและกันยุเวกโอรสของอินทรชิตมาช่วยรบ หลังจากนั้นพระพรตได้ยกทัพไปทำศึกกับเมืองมลิวัน ในการศึกครั้งนั้นพระสัตรุดถูกหอกสุริยาภพ และถูกศรเหราพตของบรรลัยจักร ส่วนพระพรตถูกศรของท้าวจักรวรรดิ แต่เกราะที่พระรามประทานป้องกันไว้ แล้วพระรามตรัสถามพิเภกซึ่งเป็นท้าวทศคีรีวงษ์ว่าเป็นโหรผู้รอบรู้ เหตุใดจึงหลงเลี้ยงลูกข้าศึกไว้เป็นลูกตัว แต่อสุรผัดมาบอกหนุมานจึงแก้ไขได้ ท้าวทศคีรีวงษ์ทูลว่าคิดว่าทศพินเป็นลูกของตน และที่ตนรอดพ้นภัยจากท้าวจักรวรรดิได้ก็เพราะเดชะบารมีของพระราม พระรามจึงตรัสปลอบว่า ท้าวทศคีรีวงษ์มีฤทธิ์น้อย ข้าศึกจึงประมาทฝีมือ อีกทั้งกรุงลงกาก็รุ่งเรืองเทียมเมืองสวรรค์ ข้าศึกจึงยกมาชิงเมือง ต่อจากนั้นพระรามให้พระลักษณ์จัดการปูนบำเหน็จแก่ผู้มีความดีความชอบในการรบ ให้พระพรตซึ่งสังหารทศพินและท้าวจักรวรรดิ และพระสัตรุดซึ่งสังหารสุริยาภพและบรรลัยจักร เป็นกษัตริย์ครองเมืองไกยเกษ สุครีพซึ่งเป็นท้าวไวยวงษาผู้ร่วมสังหารบรรลัยจักรได้เครื่องยศกษัตริย์ ท้าวทศคีรีวงษ์ผู้ทำนายการศึกได้มงกุฎนพรัตน์ พระยาอนุชิตผู้หักด่านไฟกรดน้ำกรดได้ครองเมืองมลิวัน ได้เครื่องทรงเครื่องต้นและนางสนม องคตซึ่งเป็นพระยาอินนุภาพผู้ร่วมสังหารบรรลัยจักรและเพตรา ได้เครื่องทรงและเครื่องอุปโภค นิลพัทได้เป็นพระยาอภัยพัททะพงศาและเป็นอุปราชเมืองชมพู รวมทั้งได้รับสร้อยสังวาล ชมพูพานและนิลนนท์ได้มงกุฎแก้วและเครื่องประกอบยศ อสุรผัดผู้ทูลเรื่องกบฏกรุงลงกาและทำลายพิธียักษ์ถึง ๒ ครั้ง เป็นพระยามารนุราช อุปราชกรุงลงกา ยามลิวันผู้ลอบออกมาทูลข่าวได้เป็นพระยาวันยุภักตร ครองเมืองกุรุราช ส่วนกันยุเวกได้เป็นพระยากันนุชิตครองเมืองจักรวาล เปาวนาสูรไปเป็นอำมาตย์กรุงลงกา

ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ฤทธิ์ท่านน้อยพาลมา”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ปฤกษาซึ่งผู้มี”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “บันไลย จักรนา”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ชื่ออ้าง”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “อสุรผัดนำเหตุด้าว”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “ราษฎร์แผ้วผ่องเกษม”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “กันยุเวกให้ปกด้าว”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “พระลักษณกับหมู่ท้าว”
ที่ถูกต้องน่าจะเป็น “สองน้องจักรกฤษณน้อม”